Sunday, March 9, 2008

ANGKOR TRIP (ตอนสิบเจ็ด)

ปราสาทบันทายสำเหร่ สร้างกลางปีพุทธศตวรรษที่ 17 รัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 และต่อเติมโดยพระเจ้ายโศวรมันที่ 2 ศิลปะแบบนครวัด
ปราสาทบันทายสำเหร่ ตั้งอยู่ไกลจากปราสาทในกลุ่มเมืองพระนคร ปราสาทแห่งนี้คล้ายกับปราสาทหินพิมาย ช่องทางเดินระหว่างปราสาทแต่ละหลัง ดูแออัดคับแคบ บรรณาลัยทางด้านเหนือและด้านใต้แทบจะอยู่ติดกัน

ปราสาทแม่บุญตะวันออก สร้างในปลายปีพุทธศตวรรษที่ 15 (พ.ศ. 1495) รัชสมัยของพระเจ้าราชทรวรมันที่ 2 ศิลปะแบบแปรรูป
ก่อนที่จะมีการสร้างแม่บุญตะวันออกขึ้น พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ทรงสร้างบารายทางทิศตะวันออก โดยมีพระประสงค์เพื่อให้มีน้ำใช้กันทั้งเมือง บารายนี้มีความยาว 7 กิโลเมตร และกว้าง 1.8 กิโลเมตร มีความลึก 4 เมตร เก็บน้ำได้ถึง 55 ล้านลูกบาศก์เมตร บารายนี้ถูกขนานนามว่า ยโศธรตฏากะ หรือสระน้ำของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ซึ่งได้น้ำจากแม่น้ำโรลัวะไหลเข้ามายังบารายแห่งนี้
เช่นเดียวกับปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญตะวันออก เปรียบประหนึ่งวิหารที่อยู่บนยอดเขา เพราะความสูงทั้ง 3 ชั้นของปราสาท จากพื้นถึงยอดปรางค์ประธานมีความสูงถึง 28 เมตร กำแพงล้อมรอบปราสาทกว้าง 121 เมตร ยาว 126 เมตร ฐานชั้นล่างของปราสาทกว้าง 104 เมตร ยาว 108 เมตร ชั้นบนสุดของปรางค์ทั้ง 5 หลัง ถูกสร้างอยู่บนฐานเดียวกัน ที่ทับหลังของปรางค์ประธานมีภาพสลักของคชลักษมี ที่อยู่ทางซ้ายและขวาของพระนางลักษมี โดยชูงวงขึ้นประสานกัน

ปราสาทตาสม สร้างในปีพุทธศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1724-1763) รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และทำการขยายเพิ่มเติมในรัชสมัยของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 ศิลปะแบบบายน
ปราสาทตาสม เป็นปราสาทขนาดเล็กหากเปรียบเทียบกับปราสาทตาพรหมหรือปราสาทบันทายกเดย
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ลักษณะเด่นของปราสาทตาสมอีกอย่างก็คือพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งอยู่บนยอดของปรางค์ประธานและโคปุระที่กำแพงด้านนอกมีพระพักตร์ทั้งสี่ทิศรูปแบบลักษณะเช่นนี้เหมือนกับปราสาทบายน

No comments: