จากนาน ๆ เป็นครั้ง ก็เริ่มถี่ขึ้น พี่แกก็ยังไม่ไปหาหมอ ประมาณว่างานเยอะ ไม่มีเวลา ไอ้เราก็กลัวเค้าจะเป็นอัมพฤกษ์ไปซะ ไม่อยากมีพี่เป็นอัมพฤกษ์น่ะ
ที่สุดแกก็ไปหาหมอ เพราะแกทนปวดไม่ไหว
หมอก็บอกว่า แกน่ะ กระดูกคอเสื่อม พอเราได้ยินที่เขาเล่ามาก็ อู้ย…น่ากลัวง่ะ ต่อมอยากรู้อยากเห็นก็เริ่มเป่ง จวนเจียนจะแตกเต็มที ก็เลยเร่งหาความรู้เข้าตัว และด้วยความมีจิตสำนึกดีกับคนรอบตัว ก็เลยหาข้อมูลมาเผยแพร่ให้คนแถวนี้ได้อ่านกัน เรื่องราวเหล่านี้นำมาจาก www.thaispinedoctor.com และภาพจาก www.si.mahidol.ac.th
ติดตามอ่านกันได้เลย

การเสื่อมสภาพของกระดูกคอ จะเริ่มตั้งแต่มีการเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอ ต่อมาก็มีการเสื่อมของข้อต่อของกระดูกสันหลัง เมื่อมีการเสื่อมมากขึ้น ข้อต่อก็จะมีการหลวม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดคอเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ บางรายไม่มีอาการปวดคอ แต่รู้สึกเมื่อยคอ
ต่อมาร่างกายก็มีการปรับสภาพโดยการพยายามสร้างกระดูกขึ้นมา ไม่ว่าบริเวณข้อต่อ หรือส่วนอื่นๆของกระดูกสันหลังที่มีการเคลื่อนไหว กระดูกที่สร้างขึ้นมานี้ เรียกว่า หินปูน หรือ กระดูกงอก ก็จะส่งผลให้ขยับเคลื่อนไหวน้อยลง อาการปวดคอของผู้ป่วยก็จะดีขึ้น บางรายก็ไม่ปวดคอเลย
แต่กระดูกงอกหรือหินปูนดังกล่าว หากเกิดบริเวณตำแหน่งใกล้กับเส้นประสาทก็จะทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดชาแขนไปตามส่วนที่เส้นประสาทไปเลี้ยง ในผู้ป่วยอายุน้อยการเกิดกดทับเส้นประสาท จากหินปูนจะพบน้อย เนื่องจากกระดูกคอยังเสื่อมไม่มาก แต่ก็เกิดขึ้นได้จากที่ หมอนรองกระดูกคอ ที่เสื่อม เคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้ ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในช่วงอายุ 20-40 ปี
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
บุหรี่ เป็นปัจจัยทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกระดูกสันหลัง
การใช้งาน ในอิริยาบถและทำผิดลักษณะ เช่น การก้มคอเขียนหนังสือ หรือดูคอมพิวเตอร์นานๆ การนอนหนุนหมอนที่สูงมาก ทำให้คออยู่ในท่างอผิดปกติ ตลอดจนการนอนอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือเงยคอทำงานเช่น ช่างซ่อมช่วงล่างรถยนต์ ก็ทำให้คออยู่ในลักษณะแอ่นไปด้านหลังตลอดเวลา หากมีการใช้ผิดลักษณะนาน ๆ จนเป็นนิสัย ก็ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้นได้
การได้รับอุบัติเหตุ ทางรถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์ กระดูกคอเกิดการกระแทก หรือคอมีการเหวี่ยงอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของหมอนรองกระดูก หรือเอ็นข้อต่อกระดูกได้
การเล่นกีฬาบางชนิด เช่น การโหม่งลูกฟุตบอล การเล่นอเมริกันฟุตบอล ทำให้เกิดกระแทกบริเวณศีรษะหรือคอบ่อยๆ การเล่นโยคะบางท่า เช่น ท่าศีรษะโหม่งพื้น ใช้ศีรษะรับน้ำหนักตัว
อาการแสดงของกระดูกคอเสื่อม
ไม่มีอาการแสดง อาจจะมีอาการเมื่อยๆคอ เป็นๆหายๆ แต่ก็ไม่ได้สังเกต ไม่ได้รักษา
ปวดคอเรื้อรัง กินยาแก้ปวด อาการก็ดีขึ้น ต่อมากลับมาปวดคออีก บางรายเวลาแหงนคอก็มีอาการปวดร้าวบริเวณสะบักหรือหัวไหล่
ปวดคอร้าวไปแขน แสดงว่ากระดูกคอเสื่อมเริ่มมีการกดทับเส้นประสาท อาจจะอาการเหมือนมีไฟช๊อต ร้าวจากคอไปบริเวณข้อศอกหรือนิ้วมือ เสียวแปล๊บๆ ต่อมาอาการเสียวดีขึ้นแต่รู้สึกชาและปวดแขน แขนล้าไม่มีแรง
ไม่มีอาการปวดคอแต่รู้สึกปวดไหล่ ร้าวไปข้อศอก ปวดล้าๆ เมื่อย อาจจะมีอาการชาร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
มีอาการเดินเซ หรือแขนขา อ่อนแรง โดยไม่ปวดคอ
ถ้ามีการกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรงก็ทำให้เดินไม่ได้ หรือควบคุมการอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้
No comments:
Post a Comment