23 ตค. 52 วันนี้ได้ตะลอนไปที่ศูนย์วิจัยหมีแพนด้า ไปดูหมีแพนด้า กับ Red Panda สถานที่เค้าใหญ่โตดี อากาศเย็นสบายดี หมีก็เยอะดี มีทั้งตัวใหญ่ ตัวน้อย น่ารักดี
จากนั้นเราก็ไปศาลเจ้าสามก๊ก ต่อไปเป็นรายละเอียดของศาลเจ้าแห่งนี้ คัดลอกจากวิกิพีเดียค่ะ
ศาลเจ้าสามก๊ก ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่วัดอู่โหวซื่อ ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน สร้างขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์จิ้นตะวันตก ด้านหลังของวัดเป็นที่ตั้งสุสานของพระเจ้าเล่าปี่และจูกัดเหลียง ซึ่งเป็นตัวละครที่มีชีวิตอยู่จริงในสามก๊ก ซึ่งเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจีน เรื่องราวต่าง ๆ ในสามก๊กเริ่มต้นในปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของพระเจ้าเหี้ยนเต้ เนื่องจากในขณะนั้นเล่าปี่ปกครองและแต่งตั้งเสฉวนเป็นราชธานี โดยมีจูกัดเหลียงเป็นที่ปรึกษา ราษฏรใช้ชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่เมื่อเล่าปี่สวรรคตแล้ว ประชาชนต่างให้การยอมรับและนับถือจูกัดเหลียงมากกว่า จึงร่วมกันสร้างศาลเจ้าขึ้นมาเพื่อเป็นที่เคารพบูชา แต่ไม่นานทางรัฐบาลจีนเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงมีคำสั่งให้สร้างศาลเล่าปี่ขึ้น รวมทั้งให้มีรูปปั้นขุนนาง 14 ท่านภายในศาลเจ้า
ศาลเจ้าสามก๊ก ก่อสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 766 หรือเมื่อประมาณ 1,700 ปีมาแล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์สามก๊กในสมัย พ.ศ. 763 - พ.ศ. 823 สร้างขึ้นโดยพระบัญชาของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเฉิงปลายราชวงศ์จิ๋น ในอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 3,700 ตารางเมตร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในศาลเจ้าสามก๊ก เป็นผลงานการก่อสร้างที่ได้รับการปรับปรุงขึนในปีที่ 11 ของจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง และได้รับการยกย่องเป็นโบราณสถานแห่งชาติของจีนในปี พ.ศ. 2504 ต่อมาได้สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2527
ภายในศาลมีการแบ่งแยกพื้นที่ออกเป็นหลายส่วน รวมทั้งมีการแยกศาลต่าง ๆ ออกเป็นเฉพาะบุคคลคือศาลเล่าปี่ จักรพรรดิแห่งจ๊กก๊กและราชวงศ์ฮั่น ศาลเจ้ากวนอูที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของ 5 ทหารเสือฝ่ายบู๊ กวนอูเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์และกตัญญู จนได้รับการยกย่องจากชาวจีนให้เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และโชคลาภ ศาลเจ้าจูกัดเหลียงที่มีความโด่งดังในด้านของสติปัญญาและความฉลาดเฉลียว ภายในศาลมีรูปปั้นจูกัดเหลียงขนาดใหญ่มีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี ชาวจีนเรียกกันว่า "ทาสอุ้มทรัพย์" ตามความเชื่อต่อ ๆ กันขอชาวจีน ถ้าผู้ใดได้ลูบที่รูปปั้นจูกัดเหลียงแล้วจะมีโชคลาภ จูกัดเหลียงได้ชื่อว่าเป็นกุนซือหรือที่ปรึกษาคนสำคัญของเล่าปี่ที่มีความเฉลียวฉลาด วางแผนการรบและกลศึกต่างๆ ที่มีความสลับซับซ้อน ชาวจีนส่วนใหญ่จะนับถือจูกัดเหลียงมากกว่าศาลเจ้าเล่าปี่และศาลเจ้ากวนอู จนมีการเรียกศาลเจ้าสามก๊กเป็นศาลเจ้าจูกัดเหลียงแทน นอกจากศาลเจ้าเล่าปี่ กวนอูและจูกัดเหลียงแล้ว ภายในบริเวณศาลยังมีรูปปั้นประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญในสมัยราชวงศ์สู่ เรื่องราวต่าง ๆ จากตำนานอันยิ่งใหญ่ของสามก๊กของบุคคลอื่น ๆ อีกเช่น โจโฉ เตียวหุย และอีก 14 เสนาธิการทหารเอก
แต่เดิมสุสานของพระเจ้าเล่าปี่และจูกัดเหลียงไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่ได้มีการย้ายศาลจูกัดเหลียงจากเมืองเซ่าเฉิงมาอยู่ในบริเวณใกล้กันในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ ในราวปี พ.ศ. 963 - พ.ศ. 1132 จนถึงยุคราชวงศ์หมิงจึงรวมสุสานและศาลเล่าปี่กับจูกัดเหลียงเข้าด้วยกัน และได้พัฒนาศาลเจ้าดังกล่าวโดยสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่ของเล่าปี่ จูกัดเหลียง กวนอู และเตียวหุย เป็นประธานอยู่ในห้องโถงกลาง ด้านข้างมีรูปปั้นตัวละครและขุนศึกต่าง ๆ ในยุคสามก๊กประดับเรียงรายตลอดทางระเบียงเป็นที่สำหรับให้ประชาชนมาเคารพสักการะ ในเวลาต่อมาวัดอู่โหวซื่อก็กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อศาลจูกัดเหลียงหรือศาลเจ้าสามก๊ก และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเฉิงตูในปัจจุบัน
No comments:
Post a Comment