Sunday, January 18, 2009

โชคดี (6)

หลายคนนึกสงสัยว่า เมื่อเจอกับสถานการณ์เลวร้ายในชีวิต เช่น เกิดภัยพิบัติ ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เมื่อต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เช่น พ่อแม่ตาย ลูกตาย จะยังให้พูดว่าขอบคุณ จะให้พูดว่าโชคดีได้อย่างไร

การคิดถูกคือ เราต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นและผ่านไปแล้ว เป็นอดีตที่เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ แต่ให้เราตั้งเจตนาไว้ว่า นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาใจดี ตั้งจิตเป็นบุญเป็นกุศล ทำหน้าที่ของเราต่อไปด้วยจิตใจที่ดีมีเมตตา

หากเราต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เช่น ลูกตาย เราต้องทำใจว่าอย่างไรเขาก็ตายไปแล้ว พ่อแม่ต้องรักษาใจดี คิดเสียว่าลูกเขาไปเกิดในทางที่ดี พ่อแม่ยังคงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ชีวิตยังมีค่ามีความหมาย โดยเฉพาะสำหรับลูกคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ ถ้าเราไม่ระวังรักษาใจของเราให้ดี หรืออย่างน้อยรักษาใจเป็นปกติให้ได้ ถ้าเราอยู่อย่างหดหู่สิ้นหวัง เท่ากับทำลายอนาคตของตัวเอง ของครอบครัว ของลูก ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ไปด้วย บรรยากาศในบ้านก็จะมีแต่ความทุกข์เศร้าโศก ดังนั้นแทนที่จะปล่อยจิตใจให้จมอยู่กับความทุกข์เศร้าหมอง เราต้องสร้างกำลังใจ ตั้งจุดมุ่งหมายให้กับชีวิตที่จะต้องดำเนินต่อไปว่า เราจะรักษาใจดี คิดดี พูดดี ทำดี มีเมตตากรุณาต่อตัวเอง

คำพูดว่า “โชคดี” จึงเป็นคำที่มีความหมาย เป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์สำหรับกับชีวิต เหมือนกับว่าเราตั้งโปรแกรมการมองโลกในแง่บวกไว้ในจิตใจของเราเสมอ เพราะใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้าของชีวิต ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้ามีกำลังใจดีแล้ว คิดดี พูดดี ทำดี ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้

No comments: