Sunday, January 18, 2009

โชคดี (1)

สืบเนื่องจากปีใหม่ที่ผ่านมานี้ ประทับใจกับของขวัญชิ้นหนึ่ง เป็นหนังสือชื่อ “โชคดี” แค่ชื่อเรื่องก็เป็นมงคลซะขนาดนี้แล้ว พอได้อ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในหนังสือ ก็ยิ่งชอบ โดยเฉพาะเรื่องที่ชื่อว่า “ภาษาศักดิ์สิทธิ์” ก็เลยถือโอกาสคัดลอกเรื่องราวนี้มาให้ผู้อ่าน 3-4 คนได้อ่าน เพื่อความเป็นสิริมงคลกับผู้อ่าน 3-4 คน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะชอบเหมือนกับที่ NaaToy ชอบ เรื่องราวนี้มาจากหนังสือชื่อ “โชคดี” โดย “พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก” เชิญอ่านได้เลยค่ะ

ภาษาศักดิ์สิทธิ์
อาจารย์เคยอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นเล่มหนึ่ง เล่าถึงประสบการณ์จริงของชีวิตนักศึกษาชายคนหนึ่ง สมมติให้ชื่อว่าโกโบริก็แล้วกัน โกโบริเดินทางไปเที่ยวประเทศอิสราเอลในช่วงใกล้คริสต์มาส ซึ่งเป็นฤดูหนาว และเป็นช่วงเวลาที่เกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิรัก ซึ่งส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในประเทศอิสราเอล โกโบริไม่ได้จองโรงแรมไว้ล่วงหน้า เมื่อมาถึงเมืองไฮฟา (Haifa) ซึ่งแม้จะเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของอิสราเอล แต่ไม่มีโรงแรมเปิดให้บริการเลย เขาพยายามหาโรงแรมที่จะพักค้างคืน แต่จนเกือบ 3 ทุ่มแล้วก็ยังหาไม่ได้ ยิ่งค่ำมืออากาศก็ยิ่งหนาวจัด ไฟตามถนนก็ค่อย ๆ ดับไป ๆ เขารู้สึกหดหู่และเหนื่อยมากจนรู้สึกเหมือนกับไม่ไหวแล้ว ก็พอดีมีผู้หญิงชาวยิววัยกลางคนคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณเดียวกับคุณป้าของเขา หญิงคนนั้นหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเดินเข้ามาทักเขาเป็นภาษาอังกฤษว่า คุณเป็นอย่างไรบ้าง ไม่สบายหรือเปล่า เพราะหน้าซีดมาก โกโบริจึงบอกกับหญิงชาวยิวว่า เขาเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากญี่ปุ่น กำลังหาโรงแรมที่จะพักคืนนี้ แต่ยังหาไม่ได้ หญิงชาวยิวก็บอกกับเขาว่า ถ้าหาที่พักไม่ได้ก็ให้มาพักที่บ้านของเธอก็ได้ พร้อมกับให้ที่อยู่และเขียนแผนที่ทางไปบ้านไว้ให้ โกโบริรู้สึกทั้งแปลกใจและตกใจ เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครอนุญาตให้คนแปลกหน้าและถ้าเป็นชาวต่างชาติไปพักค้างแรมที่บ้านของตน ถ้าเป็นในประเทศญี่ปุ่นแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม โกโบริตอบขอบคุณหญิงชาวยิว แต่ก็ยังจะลองพยายามหาโรงแรมดูก่อน จนในที่สุดเมื่อไม่สามารหาโรงแรมได้ เขาจึงไปหาหญิงชาวยิวตามที่อยู่ที่เธอให้ไว้ พอไปถึงมองเห็นบ้านไม่มีหน้าต่าง เหมือนโลงศพ มีหญ้าขึ้นปกคลุมรก เขาก็ยิ่งรู้สึกกลัว แต่ก็ต้องทำใจกล้าหาญเดินเข้าไป ทันทีที่กดกริ่งเรียก หญิงชาวยิวก็เปิดประตูเหมือนกับว่ากำลังรอใครอยู่แล้ว เธอเชิญโกโบริเข้าไปในบ้าน บนโต๊ะอาหารมีซุปร้อน ๆ วางอยู่ 2 ชุด เธออยู่คนเดียว แต่กลับมีซุปวางพร้อมอยู่บนโต๊ะอาหาร 2 ชุด โกโบริรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกับ เมื่อได้รับประทานซุปร้อน ๆ แล้ว หญิงชาวยิวก็พูดคุยกับเขา เขาเพียงแต่เล่าว่าเขาเป็นนักศึกษาปริญญาโท ช่วงนี้ปิดเทอมก็เลยแบกเป้ออกเดินทางมาท่องเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิต ส่วนหญิงชาวยิวก็เล่าเรื่องราวของตนเองให้โกโบริฟังว่า เธออพยพมาจากประเทศเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชีวิตที่ลำบากมาก สามีเธอเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์แต่ก็เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีลูกชายแต่งงานแล้วก็ย้ายออกจากบ้านไป โกโบริรู้สึกว่าเวลาพูดคุยกัน หญิงชาวยิวก็มองตาเขาอยู่ตลอด เหมือนกำลังอ่านใจเขาอยู่ จนเขารู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตาด้วย เมื่อพูดคุยเล่าประสบการณ์กันพอสมควรแล้ว หญิงชาวยิวก็จัดห้องพักให้และเชิญให้เขาพักผ่อน

เมื่อได้สนทนากันแล้ว หญิงชาวยิวก็บอกกับโกโบริว่า อยากจะมอบคำศักดิ์สิทธิ์ให้กับโกโบริ เธอสอนเขาว่า ความโชคดีมีอยู่เสมอและความโชคดีสามารถเป็นของเราได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ถ้าเราพูดภาษาที่ดี ๆ บ่อย ๆ ความโชคดี โอกาสดี ๆ เกิดขึ้นได้กับทุกคน ภาษาที่ดี ๆ นี้เป็นภาษาธรรมดา คือคำว่า “ขอบคุณ” และ “ซาบซึ้งในพระคุณ” ให้ใช้คำสองคำนี้บ่อย ๆ แล้วจะพบสิ่งดี ๆ ในชีวิต

2 comments:

แปลภาษาเกาหลี said...

ดีครับ โพสได้น่าอ่านดีครับ

NaaToy said...

ขอบคุณค่ะ