Thursday, November 5, 2009

ว่าด้วยเรื่องท้องผูกกับการออกกำลังกาย

สืบเนื่องจากไม่ได้ออกกำลังกายมานานถึง 5 เดือน ด้วยความที่ติดเอเอฟอย่างหนักหนาสาหัส แต่...ก็แค่ 3 เดือนเองนี่นา ไปโทษเอเอฟได้อย่างไร ต้องโทษตัวเองซิ ส่วนอีก 2 เดือนที่เหลือน่ะ ฝนมันก็ดั๊นตกทั้นวัน ทุ๊ดวัน แอ่น ความขี้เกียจอีกต่างหาก ก็เลยขาดการออกกำลังกายไปซะ

เดือนสองเดือนที่ผ่านมา ก็เกิดอาการท้องผูก แรก ๆ ก็ไม่รู้เพราะอะไร พยายามกินนู่นกินนี่ ตามที่ใคร ๆ เค้าบอกกัน สุดท้ายพี่ชายแนะว่า แกน่ะ ต้องออกกำลังกายน่ะเฟ้ย มันช่วยได้ ไอ้เราก็จริงเหรอ ไม่เชื่อหรอก

แต่พอกลับจากไปเที่ยวจีน มีคนทักมากมายทักกันว่าอ้วนขึ้นนะ ไอ้เราก็อุ้ยตายว๊ายกรี๊ด...ทำไมทักฉันอย่างนั้นล่ะ แต่ก็สำนึกได้ทีหลัง เพราะว่าตอนไปเที่ยวจีนกินข้าวเยอะมากไปหน่อย มื้อละ 2 ถ้วย ซึ่งถ้าอยู่เมืองไทยไม่เคยกินขนาดนี้ แบบว่า...Enjoy Eating น่ะ

สัปดาห์ต่อมา NaaToy ก็ฟิตออกกำลังกาย เริ่มจากการวิ่ง วิ่งไปได้ประมาณ 2 วัน อาการท้องผูกก็หายไป ระบบขับถ่ายเป็นปกติ มันก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันเนอะ ก็เลยลองเสาะหาข้อมูลในเน็ต ว่าการออกกำลังกายกับท้องผูกมันเกี่ยวข้องอะไร อย่างไรกัน ก็ได้ความมาว่า

อย่ามองข้าม 5 เหตุ ส่งผลท้องผูก
ท้องผูกเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป มักเกิดจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อย และขาดการออกกำลังกาย ถ้ามีอาการท้องผูกเป็นประจำอาจบ่งชี้ว่า จะมีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับสุขภาพในระยะยาวได้ ถ้าลำไส้ใหญ่ทำงานเป็นปกติจะช่วยให้ขับถ่ายดี และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้

นอกจากอาการท้องผูกจะเกิดจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว ยังสามารถเกิดได้จากปัจจัยอื่นได้อีก เช่น

1. ไม่สนใจอาหารเส้นใย อาหารที่มีเส้นใยมากๆ จะเป็นเหมือนไม้กวาดที่เข้าไปกวาดล้างของเก่าหมักหมมให้สลายตัวออกไปจากลำไส้ของคุณ ร่างกายต้องการเส้นใยวันละ 20-25 กรัม เพื่อช่วยในการขับถ่าย แต่ทุกวันนี้ข้าวขาว ขนมปัง เบเกอรี่ ช็อกโกแลต เป็นอาหารที่มาแรงได้ใจสาวๆ ซะจนอาหารเส้นใยแทบไม่มีโอกาสได้แจ้งเกิด ท้องน้อยๆ เลยผูกเอา ผูกเอา

2. ความเครียด ศัตรูตัวร้าย ความเครียดจะทำให้ระบบทุกส่วนในร่างกายรวนเร ไม่เว้นแม้แต่ระบบขับถ่าย เพราะเมื่อเกิดความเครียด ลำไส้จะหยุดบีบตัวชั่วคราว ทำให้เบื่ออาหาร พร้อมกับถ่ายไม่ออก เมื่อไรที่หยุดเครียด นั่นล่ะถึงจะกลับมากินง่ายถ่ายสะดวกเหมือนเดิม

3. การกลั้นอุจจาระ ก็ร่างกายร่ำร้องว่าจะถ่าย แล้วกลับไม่ยอมให้มันได้ทำงานเอง แล้วจะไปโทษใครได้ ถ้าร่างกายจะเกิดความเคยชิน ไม่บีบตัว และไม่ถ่ายไปซะดื้อๆ นอกจากนี้ อุจจาระเก่าๆ ที่คุณกลั้นไว้ก็จะถูกดูดน้ำออกไปทุกวันๆ ทำให้มันเป็นก้อนแข็งอุดตัน ปิดกั้นการเคลื่อนตัวของของเสียในลำไส้ จึงยิ่งทำให้ท้องผูก ถ่ายลำบากยิ่งกว่าเดิม

4. ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหารที่ดีที่สุด เพราะการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจะทำให้กล้ามเนื้อลำไส้บีบตัวและเกิดการขับถ่ายของเสียออกมา คนที่นั่งหรือนอนทั้งวัน โอกาสที่ระบบขับถ่ายจะทำงานได้ดีก็ยากหน่อย

5. ทานยาระบายบ่อยครั้ง ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรจะใช้ยาถ่าย เพราะการใช้สารแปลกปลอมเข้าไปช่วยในการระบาย จะไปสร้างความเคยชินให้กับลำไส้ ทำให้หยุดทำงานตามปกติ และจะบีบตัวขับถ่ายอุจจาระก็ต่อเมื่อกินยาเข้าไปกระตุ้นเท่านั้น คนที่ใช้ยาถ่ายติดต่อกันนานๆ จึงจะมีปัญหาท้องผูก ถ่ายเองไม่ได้ ถ้าไม่ทานยา

อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะคะ อย่าปล่อยให้โรคท้องผูกกลายเป็นปัญหากับคุณในระยะยาวค่ะ

ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ --> ขอบคุณอย่างแรงค่ะ

No comments: