Thursday, April 24, 2008

กลเม็ดเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ กับโปรแกรมการลดน้ำหนัก – ที่ผู้เชี่ยวชาญบางคน…ไม่อยากให้คุณรู้

โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้นมีมากมายหลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งบางครั้งมันเป็นการยากมากที่จะเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อช่วยลดน้ำหนักได้เร็วและได้ผลที่สุด คนจำนวนมากไม่รู้พื้นฐานของการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก รวมทั้งเหตุผลว่าทำไมจึงไม่สามารถลดน้ำหนักได้ตามต้องการสักที บทความนี้จะนำเสนอวิธีที่ได้ผลทั้งสามประการในการฝึกเพื่อช่วยคุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลามากมาย เริ่มด้วยสิ่งแรกก่อนก็คือ

1. ความหนักหน่วงของโปรแกรมการฝึก
คนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าต้องการลดน้ำหนักแล้วล่ะก็ เราต้องไปยิมหรือฟิตเนส และใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่พบเจอ นั่นก็เป็นความจริงบางส่วน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและผู้เกี่ยวข้องเป็นร้อยเป็นพันคนทั่วโลก พิสูจน์แล้วว่าถ้าต้องการลดน้ำหนักแล้วล่ะก็ โปรแกรมการฝึกของคุณนั้นต้องหนักหน่วง ไม่ใช่พอบริหารจบหนึ่งท่า พัก 10 นาทีแล้วจึงบริหารอีกท่าหนึ่ง ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด
ดังนั้น ทันที่คุณฝึกจบหนึ่งท่า คุณต้องฝึกท่าต่อไปเรื่อย ๆ มันทำให้การฝึกของคุณใช้เวลาน้อยลง แต่หนักหน่วงขึ้น

2. การออกกำลังกายประเภทแอโรบิคนั้นสำคัญยิ่งยวด
Aerobic training เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในโปรแกรมการลดน้ำหนักทุกประเภท มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เพื่อเบิร์นไขมันโดยไม่ออกกำลังกายประเภทแอโรบิค ใช่...มันน่าเบื่อ แต่นิดนึง คุณต้องการลดน้ำหนักและต้องใช้วิธีที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล ไม่สำคัญว่าคุณจะกินยาลดน้ำหนัก L-Carnitine หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอะไรก็ตาม คุณต้องฝึก aerobic training เยอะ ๆ
จริง ๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งบนลู่วิ่งเป็นชั่วโมง แค่วันละ 20 นาทีก็เจ๋งแล้ว และถ้าคุณทำสักเดือน คุณจะเจอะเจอผลลัพธ์ที่ได้จากการฝึก สิ่งอื่น ๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้อีก นั่นก็คือ พวกเรามากมายอีกหลายคน คิดว่าทางเดียวที่จะออกกำลังกายประเภทแอโรบิคได้นั้น ก็คือการใช้อุปกรณ์น่าเบื่อในยิม เช่น stepper หรือไม่ก็ลู่วิ่ง เท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่า…ฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส วิ่ง เต้นแอโรบิค ต่อยมวย ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการออกกำลังกายประเภทแอโรบิคเช่นกัน

3. เล่นเวทเบา ๆ แต่มากครั้ง
เมื่อเบิร์นไขมันได้เพียงพอแล้ว คุณสามารถกระชับกล้ามเนื้อด้วยการยกเวทเบา ๆ แต่เล่นจำนวนครั้งมากขึ้น คุณสามารถกระชับกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยา ถ้าคุณไม่ใช่มืออาชีพด้านฟิตเนสแล้วล่ะก็ มันก็ไม่มีจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเปลี่ยนโปรแกรมการฝึก และ
แทนที่จะใช้เวทน้ำหนักมาก ๆ ที่คุณสามารถยกได้ ก็ใช้เวทน้ำหนักเบา ๆ แต่เล่นจำนวนครั้งมากขึ้นแทน นั่นคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ และใช่ คุณอาจจะคิดว่าเวทเบาเกินไป ก็เล่นจำนวนครั้งมาก ๆ ซิ คุณจะพบว่าการกระชับกล้ามเนื้อนั้นง่ายดายเพียงใด

- ข้อมูลเพิ่มเติมจาก theryo.com -
ที่มาของความนิยมของ L-Carnitine ในช่วงปี 80 มันมาจากอะไรทราบมั๊ยครับ มันมาจากการที่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Ephedrine และ Caffeine ถูกระบุว่ามีอันตรายกับสุขภาพ ผู้ประกอบการ จึงพยายามมองหาสินค้าตัวใหม่ ที่ยังไม่พบว่ามีผลข้างเคียงอันตรายกับสุขภาพ (ในขณะนั้น) ออกมาขาย และพระเอกตัวนึงของยุคนั้น ก็คือ L-Carnitine นี่แหละครับ
สำหรับบ้านเรา มาเป็นที่นิยมรู้จักกันเพิ่มมากขึ้น ช่วงที่กระแสเครื่องดื่มชาเขียวเพื่อสุขภาพมันตก ยอดขายไม่กระเตื้อง ผู้ประกอบการกำลังมองหาสินค้าตัวใหม่ จึงออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสม L-Carnitine และทำการประชาสัมพันธ์กันอย่างใหญ่โต จากที่เคยหลอก เอ้ย เคยสนใจกันเฉพาะแวดวง ผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มเล็กๆ คราวนี้ก็เป็นที่สนใจกันในวงกว้างเลย
ผลดีของ L-Carnitine นั้นมีครับ แต่ว่าค่อนข้างมีนัยไม่มากนัก ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมัน มาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งจริงๆ ถ้าต้องออกกำลังกายอยู่แล้ว ปกติมันก็เกิดการเผาผลาญอยู่แล้วนั่นและครับ แต่ถ้าจะซื้อหามารับประทาน ก็ไม่ผิดกติกาครับ ผมเพียงต้องการให้ข้อมูลในอีกมุมนึง ที่เอกสารประกอบการขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ไม่เคยตีพิมพ์เท่านั้นเอง
สำหรับผลข้างเคียงนะครับ มีการวิจัยบางฉบับแนะนำไว้ว่า ในผู้มีปัญหาระดับไทรอยด์ต่ำ ไม่ควรบริโภค L-Carnitine ครับจะมีปัญหากับภาวะสมดุลย์ของไทรอยด์ได้ครับ ผู้มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง ก็ไม่ควรรับประทานครับ
ผลข้างเคียงบางอย่างที่มีการรายงานอื่นๆ ก็อย่างเช่น หัวใจเต้นเร็ว เป็นไข้ และหากทานในปริมาณมากเกินไป จะทำให้ท้องเสียเกิดอาการท้องเดิน ท้องร่วง แต่ก็ไม่ได้เกิดกับทุกคนครับ

No comments: