Tuesday, November 27, 2007

วินิจฉัยโรค

เรื่องมันเริ่มมาจาก ช่วงวันที่ 23-24 พย. 50 ที่ธนาคารฯมีการจัดสัมมนาของทางฝ่ายไอที ที่จ.กาญจนบุรี ก็ประมาณว่ามีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกัน ให้ความรู้ใหม่ ๆ กับพนักงาน

จนกระทั่งถึงวันที่จะกลับกรุงเทพฯ (วันที่ 24) ไอ้น้องคนหนึ่งก็เกิดเสียดท้อง ปวดท้อง กระทันหัน เพื่อนคนหนึ่งก็วินิจฉัยว่า ไอ้นี่เป็นไส้ติ่งอักเสบ ชัวร์ เพราะว่าเค้าเคยเป็นมาก่อน ไอ้น้องคนนี้ก็เลยใจเสียล่ะซิ ยิ่งหน้าซีดหน้าเซียวเป็นการใหญ่ พวกเราก็เลยพาเจ้านี่ไปรพ. ตรวจให้ชัวร์กันไป

ไปถึงรพ. เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย) คุณพยาบาลมาตรวจให้ เนื่องจากเป็นวันเสาร์คุณหมอไม่อยู่ ต้องเคสหนัก ๆ ประมาณนั้น ถึงจะเข้ามาตรวจให้ คุณพยาบาลก็ตรวจกันไป จากอาการ คุณพยาบาลก็วินิจฉัยว่า ไม่ใช่ไส้ติ่งหรอกนะหนู ถ้าไส้ติ่งอักเสบล่ะก็ มันต้องปวดต่ำกว่านั้น คงจะเป็นลำไส้อักเสบเสียมากกว่า ก็เลยให้ยาถุงเล็ก ๆ มาถุงหนึ่ง

ไอ้น้องคนนี้ก็เลยหน้าชื่นตาบาน หัวเราะเบิกบานเอิ๊กอ๊าก ๆ กันไป

ประมาณเที่ยง ไอ้น้องคนนี้ก็ปวดท้อง เป็นไข้ อาการหนักกว่าเก่ากันไปอีก ก็มีผู้รู้อีกแล้ว วินิจฉัยว่า มันต้องเป็นกรวยไตอักเสบเป็นแน่ เพราะว่ามีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง เจ็บหลัง

แต่…คราวนี้พวกเราไม่ได้จัดการไปส่งรพ. ให้ เพราะถึงเวลากลับบ้านกันแล้ว ทางกองฝึกอบรมจัดการนำส่งรพ. ในเมืองให้ ซึ่งเป็นรพ.ที่ใหญ่กว่ารพ.ที่เราไปกันครั้งแรก จากการตรวจนู่นตรวจนี่แล้ว ประมาณว่าตรวจปัสสาวะ แล้วไปเพาะหาเชื้อ ก็ปรากฎว่าเป็นกรวยไตอักเสบจริง ต้องแอดมิท แต่พอดีที่พ่อเจ้าเด็กคนนี้มาเที่ยวเมืองกาญฯ พอดี ก็เลยอดเที่ยว ต้องพาลูกกลับไปแอดมิทรพ.ที่กรุงเทพฯ แทน

นี่แหละ…เรื่องของการวินิจฉัยโรคจากผู้รู้ พาให้คนไข้เสียวสันหลังไปตามกัน