Tuesday, August 19, 2008

กระดูกคอเสื่อม (ตอน 2)

รักษาอย่างไร
พักผ่อนนอนราบ
เพื่อที่กระดูกคอไม่ต้องแบกรับน้ำหนัก
ใช้กระเป๋าน้ำร้อน (Hot pack) ประคบบริเวณคอ 10-15 นาที
ถ้าปวดมากให้ใช้ปลอกคอ (Soft collar or hard collar) ช่วยพยุงคอได้ โดยเฉพาะในช่วงปวดคอเฉียบพลันในสัปดาห์แรก
กินยาแก้ปวด ซึ่งได้แก่ กลุ่มพาราเซ็ตทามอล, ยาคลายกล้ามเนื้อ หรืออาจจะใช้ยาทานวดช่วยได้ สำหรับกลุ่มยาลดการอักเสบ ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกว่า ยากระดูก อาจจะต้องระวังเนื่องจากจะมีผลระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้การนวดจับเส้น ไม่แนะนำในระยะปวดเฉียบพลัน เพราะจะทำให้อาการอักเสบมากยิ่งขึ้น
การบริหารคอ กลุ่มปวดคอเรื้อรังควรมีการบริหารคอเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อกระดูกคอ และบริหารกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอให้แข็งแรง โดยให้ลำคออยู่แนวตรง ใช้ฝ่ามือวางบริเวณเหนือหู เกร็งกล้ามเนื้อคอดันสู้ฝ่ามือ โดยไม่ให้คอเคลื่อนไหว หรือเกิดอาการปวด และให้วางฝ่ามือบริเวณ หน้าผาก เพื่อเกร็งกล้ามเนื้อ ดันสู้ฝ่ามือ ฝึกทำบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
การทำกายภาพในโรงพยาบาล โดยการให้ความร้อนอัลตราซาวด์ หรือดึงคอเป็นการรักษาวิธีหนึ่ง ซึ่งช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้

แนวทางป้องกัน
หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง หยุดสูบบุหรี่
ระวังอิริยาบถขณะทำงาน ไม่ก้ม-เงยคอนานเกินไป
ขณะทำงานควรหาเวลาหยุดพัก เพื่อออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอ เคลื่อนไหวคอ หรือเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ ชั่วโมง
เก้าอี้นั่งทำงานควรมีพนักพิง หนุนคอได้พอดี
เวลานอน ใช้หมอนหนุนบริเวณก้านคอ ไม่ให้ศีรษะก้ม หรือ เงยมากเกินไป ระดับที่เหมาะสมคือ ศีรษะอยู่ระดับเดียวกับพื้น
ออกกำลังกาย ฝึกกล้ามเนื้อคอให้แข็งแรง

Monday, August 18, 2008

กระดูกคอเสื่อม

สืบเนื่องจากรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง บ่นเรื่องปวดหลัง ปวดคอ บ่นมากมาย บ่นจนกระทั่งมันชาไปทั้งแขนด้านซ้าย
จากนาน ๆ เป็นครั้ง ก็เริ่มถี่ขึ้น พี่แกก็ยังไม่ไปหาหมอ ประมาณว่างานเยอะ ไม่มีเวลา ไอ้เราก็กลัวเค้าจะเป็นอัมพฤกษ์ไปซะ ไม่อยากมีพี่เป็นอัมพฤกษ์น่ะ
ที่สุดแกก็ไปหาหมอ เพราะแกทนปวดไม่ไหว
หมอก็บอกว่า แกน่ะ กระดูกคอเสื่อม พอเราได้ยินที่เขาเล่ามาก็ อู้ย…น่ากลัวง่ะ ต่อมอยากรู้อยากเห็นก็เริ่มเป่ง จวนเจียนจะแตกเต็มที ก็เลยเร่งหาความรู้เข้าตัว และด้วยความมีจิตสำนึกดีกับคนรอบตัว ก็เลยหาข้อมูลมาเผยแพร่ให้คนแถวนี้ได้อ่านกัน เรื่องราวเหล่านี้นำมาจาก www.thaispinedoctor.com และภาพจาก www.si.mahidol.ac.th
ติดตามอ่านกันได้เลย

กระดูกคอเสื่อมเกิดขึ้นได้จากการที่กระดูกเสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้น และเกิดจากการใช้งาน เนื่องจากกระดูกคอต้องแบกน้ำหนัก ศีรษะ และมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ภาวะกระดูกเสื่อมย่อมเกิดขึ้นทุกคน การเสื่อมมากหรือน้อยในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน

การเสื่อมสภาพของกระดูกคอ จะเริ่มตั้งแต่มีการเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอ ต่อมาก็มีการเสื่อมของข้อต่อของกระดูกสันหลัง เมื่อมีการเสื่อมมากขึ้น ข้อต่อก็จะมีการหลวม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดคอเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ บางรายไม่มีอาการปวดคอ แต่รู้สึกเมื่อยคอ

ต่อมาร่างกายก็มีการปรับสภาพโดยการพยายามสร้างกระดูกขึ้นมา ไม่ว่าบริเวณข้อต่อ หรือส่วนอื่นๆของกระดูกสันหลังที่มีการเคลื่อนไหว กระดูกที่สร้างขึ้นมานี้ เรียกว่า หินปูน หรือ กระดูกงอก ก็จะส่งผลให้ขยับเคลื่อนไหวน้อยลง อาการปวดคอของผู้ป่วยก็จะดีขึ้น บางรายก็ไม่ปวดคอเลย

แต่กระดูกงอกหรือหินปูนดังกล่าว หากเกิดบริเวณตำแหน่งใกล้กับเส้นประสาทก็จะทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดชาแขนไปตามส่วนที่เส้นประสาทไปเลี้ยง ในผู้ป่วยอายุน้อยการเกิดกดทับเส้นประสาท จากหินปูนจะพบน้อย เนื่องจากกระดูกคอยังเสื่อมไม่มาก แต่ก็เกิดขึ้นได้จากที่ หมอนรองกระดูกคอ ที่เสื่อม เคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทได้ ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในช่วงอายุ 20-40 ปี

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
บุหรี่ เป็นปัจจัยทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกระดูกสันหลัง
การใช้งาน ในอิริยาบถและทำผิดลักษณะ เช่น การก้มคอเขียนหนังสือ หรือดูคอมพิวเตอร์นานๆ การนอนหนุนหมอนที่สูงมาก ทำให้คออยู่ในท่างอผิดปกติ ตลอดจนการนอนอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือเงยคอทำงานเช่น ช่างซ่อมช่วงล่างรถยนต์ ก็ทำให้คออยู่ในลักษณะแอ่นไปด้านหลังตลอดเวลา หากมีการใช้ผิดลักษณะนาน ๆ จนเป็นนิสัย ก็ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้นได้
การได้รับอุบัติเหตุ ทางรถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์ กระดูกคอเกิดการกระแทก หรือคอมีการเหวี่ยงอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของหมอนรองกระดูก หรือเอ็นข้อต่อกระดูกได้
การเล่นกีฬาบางชนิด เช่น การโหม่งลูกฟุตบอล การเล่นอเมริกันฟุตบอล ทำให้เกิดกระแทกบริเวณศีรษะหรือคอบ่อยๆ การเล่นโยคะบางท่า เช่น ท่าศีรษะโหม่งพื้น ใช้ศีรษะรับน้ำหนักตัว


อาการแสดงของกระดูกคอเสื่อม
ไม่มีอาการแสดง อาจจะมีอาการเมื่อยๆคอ เป็นๆหายๆ แต่ก็ไม่ได้สังเกต ไม่ได้รักษา
ปวดคอเรื้อรัง กินยาแก้ปวด อาการก็ดีขึ้น ต่อมากลับมาปวดคออีก บางรายเวลาแหงนคอก็มีอาการปวดร้าวบริเวณสะบักหรือหัวไหล่
ปวดคอร้าวไปแขน แสดงว่ากระดูกคอเสื่อมเริ่มมีการกดทับเส้นประสาท อาจจะอาการเหมือนมีไฟช๊อต ร้าวจากคอไปบริเวณข้อศอกหรือนิ้วมือ เสียวแปล๊บๆ ต่อมาอาการเสียวดีขึ้นแต่รู้สึกชาและปวดแขน แขนล้าไม่มีแรง
ไม่มีอาการปวดคอแต่รู้สึกปวดไหล่ ร้าวไปข้อศอก ปวดล้าๆ เมื่อย อาจจะมีอาการชาร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
มีอาการเดินเซ หรือแขนขา อ่อนแรง โดยไม่ปวดคอ
ถ้ามีการกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรงก็ทำให้เดินไม่ได้ หรือควบคุมการอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้